วิธีกินไขมัน (ดี) ลดอ้วน ที่ถูกต้อง

วิธีกินไขมัน (ดี) ลดอ้วน ที่ถูกต้อง

เรื่องการกินไขมัน ลดอ้วน อยู่ในกระแส และนักโภชนาการก็ยืนยันว่า เป็นไปได้ และได้ผล ขณะที่บางคนยังสงสัย เพราะเชื่อว่าความอ้วนเกิดจากไขมันสะสม ฉะนั้นการกินไขมันลดอ้วน จะทำได้อย่างไร

บทความนี้ NTP (nutritional therapy practitioner หรือนักบำบัดโรคด้วยอาหาร) จึงขอแนะนำวิธีกินไขมัน ลดอ้วน ที่ถูกต้องมาบอก

ประโยชน์ของไขมันในร่างกาย

เพื่อที่จะได้รู้ว่า วิธีกินไขมัน ลดอ้วน ที่ถูกต้อง จะต้องทำอย่างไร

  1. ช่วยป้องกันการอักเสบในเซลล์

    เพราะเซลล์ในร่างกาย มีไขมันเป็นเยื่อหุ้ม (cell membranes) ทำหน้าที่ทั้งป้องกันการอักเสบ โดยการส่งสัญญาณการอักเสบ และลดการอักเสบ โดยเซลล์ไขมันดังกล่าวจะสร้าง PG หรือ prostaglandin ซึ่งมีลักษณะเหมือนฮอร์โมน บ่างเป็น PG1 PG2 และ PG3 โดย PG2 จะส่งสัญญาณการอักเสบ เพื่อ PG1 และ PG3 จะช่วยลดการอักเสบ

  2. ช่วยควบคุมฮอร์โมนความหิว (hunger hormone)

    ฮอร์โมนความหิวมีหลายตัวด้วยกัน เช่น เลปติน เกรลิน โคเลซิสโตคินิน (มีชื่อย่อว่า ซีซีเค) และอะดิโพเนคติน

ขอยกตัวอย่างการทำงานของฮอร์โมนความหิวสองตัวสำคัญคือ ฮอร์โมนซีซีเค ช่วยทำให้เราเกิดความรู้สึกอิ่ม หลังจากกินอาหาร สร้างจากการกินไขมันดี อย่างถูกต้องและพอเพียง

ส่วนฮอร์โมนเกรลิน ทำงานตรงกันข้ามกับฮอร์โมนซีซีเค ทำให้เราเกิดความรู้สึกหิว ทั้งเป็นความหิวปกติก่อนการกินอาหาร หรือความหิวเฉียบพลัน ซึ่งเป็นความรู้สึกแบบเดียวกับความอยากอาหารรสชาติต่าง ๆ ฮอร์โมนเกรลินสร้างจากกระเพาะอาหารและตับอ่อน แต่การกินไขมันดี อย่างถูกต้องและพอเพียง จะช่วยสร้างความสมดุลให้ฮอร์โมนเกรลิน เพื่อลดความหิวเฉียบพลัน

บทบาทของไขมันดี ต่อระบบการเผาผลาญ

  1. โอเมก้า-3 

    ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญช่วยทำความสะอาดไต ลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ แอล-คาร์นิทีน ช่วยร่างกายเผาผลาญไขมัน และจากการทดลองในสัตว์ทดลองพบว่า การกินไขมันดีชนิดนี้ ช่วยเผาผลาญไขมันสะสมได้ในปริมาณมาก

  2. โอเมก้า-6 

    ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของต่อมไทรอยด์ เพิ่มพลังระบบการเผาผลาญ และช่วยให้กล้ามเนื้อสีน้ำตาล (brown adipose tissueหรือมีชื่อย่อว่า บีเอที) เผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ ช่วยรักษาความเต่งตึงของผิวในขณะลดความอ้วน

  3. PG หรือ Prostaglandin

    ที่เกิดจากการกินไขมันดี อย่างถูกต้องและพอเพียง ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของ โปแตสเซียม-โซเดียมปั๊ม ที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่

วิธีกินไขมันลดอ้วน ที่ถูกต้อง 

  1. กินกรดไขมันดี อัลฟาไลโนเลอิก (ALA)

กรดไขมันดีชนิดนี้ เป็นส่วนประกอบของ โอเมก้า-3 พบมากในเมล็ดแฟล็ก เมล็ดกัญชง และวอลนัท ร่างกายสามารถใช้เอนไซม์ชื่อ d-saturated 6 ในการแปลงกรดไขมันดีALAเป็นกรดไขมันดี EPA และเป็นกรดไขมันดี DHA ตามลำดับ (เพื่อไปทำหน้าที่ป้องกันการอักเสบ)

อย่างไรก็ตาม หากกินแป้งขาวและของหวาน ไขมันทรานส์ ตกอยู่ในภาวะเครียด ขาดวิตามิน ได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการกินยาบางอย่าง จะเข้าไปขัดขวางกระบวนการแปลงกรดไขมันดี ALA ไปยังกรดไขมันดี DHA

  1. กินกรดไขมันดี ไลโนเลอิก (LA)

กรดไขมันดีชนิดนี้เป็นส่วนประกอบของ โอเมก้า-6 พบมากในนำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด และน้ำมันแซฟฟฟลาวเวอร์ แบบที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป หรือถูกความร้อน (ย้ำไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป หรือถูกความร้อน) ทั้งนี้ร่างกายจะแปลงกรดไขมันดี LAเ ป็นกรดไขมันดี GLA และเป็นกรดไขมันดี AA ตามลำดับ (เพื่อไปทำหน้าที่ป้องกันการอักเสบ)

เช่นกัน หากกินแป้งขาวและของหวาน ไขมันทรานส์ ตกอยู่ในภาวะเครียด ขาดวิตามิน ได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการกินยาบางอย่าง จะเข้าไปขัดขวางกระบวนการแปลงกรดไขมันดี LA ไปยังกรดไขมันดี AA

  1. กินกรดไขมันดี คอนจูเกท ไลโนเลอิก (CLA)

กรดไขมันดีชนิดนี้เพิ่งพบในปี 1980 โดยทีมนักวิจัย นำโดย นายแพทย์ไมเคิล พาริซ่า แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิล สหรัฐอเมริกา กรดไขมันดีชนิดนี้พบมากใน เนื้อวัว และผลิตภัณฑ์จากวัว ที่เลี้ยงด้วยหญ้าสีเขียว (ย้ำ CLA มาจากเนื้อวัวและผลิตภัณฑ์จากวัว ที่เลี้ยงด้วยหญ้าสีเขียว) CLA ช่วยลดการสะสมของไขมัน โดยการช่วยร่างกายเผาผลาญไขมัน (งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับรางวัล และสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม เนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าสีเขียวในบ้านเรานั้นหายากมาก

  1. ไขมันต้องงด

การกินไขมันดีลดอ้วน ให้ได้ผลนั้น จำเป็นต้องหลีกเลี่ยง ไขมันต่าง ๆ ดังนี้คือ ไขมันที่ผ่านกระบวนการแปรรูป ไขมันทรานส์ (มาการีน และอาหารที่ผ่านการทอดน้ำมันท่วม) เนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการแปรรูป หรือเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงในระบบอุตสาหกรรม ซึ่งได้รับฮอร์โมนหรือยาบางอย่าง อันจะไปขัดขวางการทำงานของกรดไขมันดี โดยเฉพาะโอเมก้า-3 และโอเมก้า-9ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

เรื่องการกินไขมันลดอ้วนนั้นทำได้ แต่ต้องทำความเข้าใจการกินไขมันดี อย่างถูกต้อง

 

__________________________________________________________________________

อ่านเพิ่มเติม

กลับไปยังบทความ