ทศวรรษนี้ วิทยาศาสตร์การแพทย์แทบจะยืนยันเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า โรคมากมาย โดยเฉพาะโรคที่เราเรียกว่า NCD (non communicating diseases) หรือโรคไม่ติดต่อ อันเกิดจากพฤติกรรมนั้น ล้วนแล้วแต่เกิดจากการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย เรามาดูกันค่ะว่า อาหารต้องงด ลดการอักเสบของเซลล์ หยุดเสี่ยงโรคภูมิแพ้ ความจำเสื่อม และโรคอื่น ๆ
โรคอื่น ๆ ได้แก่ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ โรคหัวใจ โรคอ้วน โรครูมาตอยด์ โรคหอบหืด โรคแอสแอลอี โรคฮาชิโมโต โรคเบาหวาน โรคผิวหนัง ปวดหัว สมองทำงานผิดปกติ เช่น อัลไซเมอร์ กระวนกระวายใจ เรียนรู้ช้า โรคซึมเศร้า รวมไปถึงโรคมะเร็ง
สาเหตุของการอักเสบมีดังนี้
- พักผ่อนไม่พอ
- มีความเครียดสะสม
- กินอาหารที่ก่อให้เกิดท็อกซิน
- ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมลพิษจากสิ่งแวดล้อมและของใช้ในครัวเรือน
ทั้งนี้ ร่างกายสร้างระบบการอักเสบขึ้นมา เพื่อที่จะสะท้อนให้เห็นว่า มีการบาดเจ็บ การติดเชื้อ และความเครียดเกิดขึ้นภายใน และร่างกายต้องการการเยียวยา
โดยปกติ ถ้ามีการอักเสบบริเวณอวัยวะหนึ่งอวัยวะใด เราจะเกิดความรู้สึกผิดปกติชัดเจน เช่น มีไข้ มีอาการปวด ตรงกันข้าม
ตรงกันข้าม หากเกิดการอักเสบในเซลล์ ร่างกายจะไม่แสดงอาการชัดเจนออกมา จนกว่าจะเกิดการอักเสบในระบบหนึ่งระบบใด ซึ่งนั่นหมายความว่า เราป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ข้างต้น
วิธีแก้อาการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย ทำได้โดย การพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาความเครียดสะสม หลีกเลี่ยงมลพิษ และกินอาหารที่ช่วยลดอาการอักเสบของเซลล์ มีทั้งแบบที่ต้องงด และที่ควรกินเพิ่ม ทั้งส่วนของผัก ผลไม้ โปรตีน ไฟเบอร์ ไขมันดี แอนตี้อ็อกซิแดนท์ และน้ำสะอาด ดังนี้
อาหารต้องงด
อาหารที่มีกลูเต้น
ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวบาเล่ย์ ข้าวไรน์ เนื่องจากกลูเต้นเป็นโปรตีนย่อยยาก แถมยังไปก่อกวนระบบการดูดซึมของลำไส้เล็ก เนื่องจากกลูเต้นเป็นโปรตีนแปลกปลอม ที่เข้าไปขัดขวางการดูดซึมสารอาหารนอกจากนี้ หากบริโภคกลูเต้นอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดภาวะ leaky gut หรือลำไส้ขี้เกียจ หรือลำไส้หย่อน ที่นอกจากจะทำให้กลูเต้น เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันแล้ว ยังทำให้โปรตีนแปลกปลอมอื่น ๆ สามารถทะลุผนังลำไส้เล็ก อันเป็นที่อยู่ของระบบภูมิคุ้มกัน เข้าไปทำลายภูมิคุ้มกัน ทำให้อาการอักเสบแย่ลง
แป้งขาวและของหวาน
นอกจากทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแล้ว การบริโภคแป้งขาวและของหวานอย่างต่อเนื่อง ยังไปเพิ่มการสร้างไซโตคิน อันเป็นสารที่ทำให้เกิดการอักเสบในระบบภูมิคุ้มกัน
อีกทั้งเมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับโปรตีนและอุณหภูมิปกติในร่างกาย ก็จะเกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่น ที่ทำให้แก่ก่อนวัย และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ในการย่อยแป้งขาวและของหวาน ร่างกายต้องสูญเสียวิตามินและแร่ธาตุมากมาย อีกทั้งระดับน้ำในเลือดสูงยังเป็นตัวสกัดกั้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
อาหารแปรรูป
อาหารแปรรูปมีส่วนผสมของสารเคมีแปลกปลอม ที่ร่างกายไม่รู้จัก และก่อให้เกิดการอักเสบ ได้แก่ สารกันบูด สีปรุงแต่งอาหาร ไขมันทรานส์ แป้งขาว วิตามินและแร่ธาตุสังเคราะห์
เนื้อสัตว์ที่เลี้ยงด้วยเมล็ดพืช
เนื้อสัตว์ ที่มาจากระบบการเลี้ยงสัตว์แบบอุตสาหกรรม มักได้รับอาหารที่มาจากธัญพืช ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธัญพืช GMO หรือตัดต่อพันธุกรรมแล้วทั้งสิ้น และพืช GMO จะเข้าไปสร้างท็อกซินในร่างกายสัตว์ ซึ่งเมื่อประกอบกับฮอร์โมนช่วยการเจริญเติบโต และยาแอนตี้ไบโอติก ที่สัตว์ได้รับแล้ว เมื่อมนุษย์กินเนื้อสัตว์ประเภทนี้ ก็เหมือนกินท็อกซินเข้าไป พอกพูนปริมาณท็อกซินในร่างกายให้เพิ่มขึ้นอีก และท็อกซินเหล่านี้เอง ที่เข้าไปก่อการอักเสบในเซลล์ในร่างกายของเรา
พืช GMO
เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง แม้ว่าจะมีกรดไขมันดีโอเมก้า – 6 ช่วยต้นการอักเสบก็จริง แต่การตัดต่อพันธุกรรมของพืชทั้งสองชนิดแล้วนั้น ทำให้โมเลกุลหรือพืชเปลี่ยนไป ร่างกายไม่รู้จัก และก่ออาการอักเสบ โดยเฉพาะในอเมริกา กรมวิจัยด้านเกษตรกรรมของสหรัฐยืนยันว่า ข้าวโพดในอเมริกาเป็นข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรม ถึง 90% และถั่วเหลืองในอเมริกาเป็นถั่วเหลืองตัดต่อพันธุกรรมถึง 93%
นอกจากนี้ ข้าวโพดยังให้น้ำตาลมหาศาล โดยเฉพาะน้ำตาลในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ฟรักโตสคอร์นไซรับ มอลโตส ซึ่งก็ก่ออาการอักเสบในเซลล์ร่างกาย
ส่วนถั่วเหลืองเอง ก็ยังอุดมไปด้วย goitrogens ที่เข้าไปก่อกวนการทำงานของไทรอยด์ แถมยังมีไฟแตทและออกซาเลท ที่ช่วยขัดขวางการดูดซึมของสารอาหารด้วย
คาเฟอีน
คาเฟอีน เข้าไปก่อกวนการทำงานของระบบดูดซึมอาหารในลำไส้เล็ก ทำให้เบื่ออาหาร ทำให้นอนไม่หลับ รวมทั้งยังเพิ่มระดับความดันโลหิต เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นด้วย และอาการทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดอาการอักเสบในเซลล์
ผลิตภัณฑ์จากนม
นม อาจมีน้ำตาลประเภทแลคโตส ที่หลายคนมีอาการแพ้ และก็มีคนแพ้เป็นจำนวนมาก ที่มีอาการท้องเสีย ท้องอืด ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์จากนมที่มาจากสัตว์ที่เลี้ยงในฟาร์มปิด ได้รับแอนตี้ไบโอติก หรือนมที่ผ่านการแปรรูปแล้ว จะเต็มไปด้วยการเติมแป้ง และก่อกระบวนการอักเสบ
พืชบางประเภท
เช่น ผลไม้ตะกูลส้ม ผักในร่ม ผลไม้ตระกูลส้มมีกรดมาก ผู้ที่ปัญหากรดไหลย้อนไม่ควรกิน นอกจากนี้ เมื่อเข้าไปในระบบย่อย ร่างกายต้องดึงแคลเซียมจากกระดูกมาปกป้อง ถ้าแคลเซียมมีไม่พอ กรดเหล่านี้จะทำให้ร่างกายเครียดแบบที่ไม่สามารถจัดการได้ และเป็นสาเหตุของอาการอักเสบของเซลล์ แม้ว่าผลไม้ตระกูส้ม จะมีแอนตี้ออกซิแดนท์สูงก็ตาม
ส่วนผักในร่มนั้น มีอัลคาลอยด์ ที่เป้นสารที่ทำให้เกิดความระคายเคืองในระบบย่อย ก่อโรคที่เกิดจากการอักเสบ เช่น รูมาตอยด์ โรคไต เอสแอลอี นอกจากนี้ ก็ยังดึงแคลเซียมออกไปจากกระดูก แล้วไปไว้ตามที่ต่าง ๆ เช่น ข้อต่อ ไต
แอลกอฮอลล์
เพิ่ม C- recreative protein ที่เป็นมาร์เกอร์ของการอักเสบในเซลล์ นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งน้ำตาล ที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด กดภูมิต้านทาน แถมยังทำลายจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ทั้งนี้จุลินทรีย์ไม่สมดุล ก่อให้เกิดอาการ leaky gut อนุญาตให้โปรตีนแปลกปลอมและเชื้อโรคผ่านเข้าไปในระบบภูมิคุ้มกัน
ไข่
จะมีสารอัลเลอเจน อันเป็นโปรตีนแปลกปลอม ที่ทำให้เกิดการอักเสบในเซลล์ หากไข่นั้น มาจากสัตว์ที่เลี้ยงในฟาร์ม แม้ว่าปกติไข่จะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินบี วิตามินดี นั่นหมายความว่า เป็นไข่ มาจากไก่หรือเป็นที่เลี้ยงแบบออร์แกนิก
อาหารควรกิน
- ผักหัว กลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หอม
- แอปเปิ้ลไซเดอร์
- กะเพราทุกพันธุ์
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
- น้ำสต็อก ไม่ว่าจะเป็นปลา หรือผัก ทั้งนี้เพื่อให้ได้แร่ธาตุจำเป็นครบถ้วน
- น้ำมันมะพร้าว ที่มีกรดไขมันลอริก ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนนมแม่ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ
- ผักใบเขียวเข้ม
- ปลา
- ขิง
- ธัญพืช ประเภทที่ปลอดจากกลูเต้น
- สารให้ความหวานตามธรรมชาติ
- ถั่ว และเมล็ดพืช
- สับปะรด
- ผักราก
- เนื้อสัตว์ออร์แกนิก
- ขมิ้น