โปรแกรมเลิกติดหวาน 3: 5 กิจกรรมผ่อนคลาย เลิกติดหวาน

โปรแกรมเลิกติดหวาน 3: 5 กิจกรรมผ่อนคลาย เลิกติดหวาน

การเลิกติดหวานนั้น “ยาก” บอกตรงๆ แต่หากมีความตั้งใจจริง ก็สามารถทำได้ โดย 2 โปรแกรมเลิกติดหวานที่เคยนำเสนอก่อนหน้านี้ และครั้งนี้เรามีกิจกรรมผ่อนคลาย ให้เลิกติดหวานมาฝาก ย้ำ ทุกคนทำได้ค่ะ

เมื่อเริ่มกินของหวาน สมองจะเริ่มรับรู้และเรียนรู้รสชาตินี้ เหมือนรสชาติอาหารอื่น ๆ แต่ความร้ายกาจของของหวาน ที่ย้อนกลับมาทำร้าย จนเราติดหวานนั้น อยู่ตรงที่ของหวานจะเข้าไปแทนตัวรับ (receptor) ของสารสื่อประสาท (neurotransmitter) โดยปกติสารสื่อประสาทดังกล่าว มีส่วนประกอบเป็นสารเคมีที่ผลิตจากกรดอะมิโน หรือโปรตีน ได้แก่ เอนโดรฟิน เซโรโทนิน กลูตาเมท กาบ้า โดปามีน โนเรพิเนฟริน ซึ่งสารเคมีแต่ละตัวดังกล่าว จะทำหน้าที่แตกต่างกันไป เอนโรฟินช่วยลดปวดและเพิ่มความสุข กาบ้าช่วยผ่อนคลายและยับยั้งความกระวนกระวาย เป็นต้น

การติดหวาน ดังกล่าวเกิดขึ้นในสมองส่วนไฮโปไธลามัส การเลิกติดรสชาติอาหาร รวมทั้งการเลิกติดหวานดังกล่าว ต้องเข้าไปแก้ไขที่สมองส่วนนี้ด้วย ซึ่งนั่นก็ได้แก่ กิจกรรมผ่อนคลายต่าง ๆ คุณหมอแดเนียล จี. เอเมน กล่าวไว้ในหนังสือ Change Your Brain, Change Your Life ว่า

  1. ฟังเพลง

    โดยคุณซินเทีย บูลิค ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Crave : Why You Binge Eat and How to Stop เป็นผู้อำนวยการศูนย์การกินผิดปกติ มหาวิทยาลัยนอร์ทคาโลไรน่า กล่าวว่า เธอแนะนำให้คนไข้ฟังเพลงจังหวะสนุกๆ เปิดเสียงดังๆ ทุกครั้งที่อยากกินของหวาน เนื่องจากเสียงเพลงจะเข้าไปขัดขวางอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้น กิจกรรมผ่อนคลายนี้ จึงช่วยให้การเลิกติดหวานได้ผล

  1. เต้นรำอย่างเมามัน

    เนื่องจากมีงานวิจัยยืนยันว่า คนที่กินดุจนอ้วน หรือยั้งปากตนเองไม่ให้กินที่ไม่ควรกินไม่ได้ จนไม่สามารถเลิกติดหวานได้ มีสาเหตุหนึ่งมาจากการขาดโดปามีน อันเป็นสารสื่อประสาทในสมอง ฉะนั้นกิจกรรมผ่อนคลายที่ช่วยให้โดปามีนหลั่งคือ การเต้นรำ การออกกำลังกาย และการทำกิจกรรมสังสรรค์กับผู้อื่น

  1. พรมน้ำหอมบนข้อมือ

    หากคุณไม่แพ้น้ำหอม ก็แนะนำให้ใช้วิธีนี้ เนื่องจากกลิ่น เสียง และงานศิลปะเป็นกิจกรรมจะช่วยดึงความสนใจของคุณ ออกมาจากความต้องการเติมเต็มรสชาติอาหารที่หลงใหล หมายถึง การเลิกติดหวานนั้นแหละ งานเขียนชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Journal of Alternative and Complementary Medicine ระบุว่า กลิ่นจะกระตุ้นประสาทส่วน parasympathetic ที่จะส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทที่ควบคุมความตื่นตัว หากเป็นไปได้ หาน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ ที่จะช่วยให้กิจกรรมผ่อนคลายนี้เห็นผลในการช่วยให้เลิกติดหวานได้ผลยิ่งขึ้น เนื่องจากกลิ่นกุหลาบจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ลดความรู้สึกผิด และความเศร้า

  1. คุยกับเพื่อนสนิท

    เพราะความเครียดหรืออารมณ์ด้านลบอาจทำให้คุณกินอย่างไม่บันยะบันยัง เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกแย่ แต่ส่วนใหญ่มักได้ของแถมเป็นความอ้วน หรือระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และไม่สามารถเลิกติดหวานได้ คุณลินดา สแปนเกิ้ล ผู้เขียนหนังสือชื่อ 100 Days of Weight Loss กล่าวว่า หากคุณรู้สึกเบื่อ กังวล หรือวุ่นวายใจ ให้ระบายความรู้สึกต่าง ๆ เหล่านั้นกับเพื่อนหรือคนรู้ใจ แทนการหันหน้าเข้าหาอาหาร ก็จะช่วยให้คุณเลิกติดหวานได้

  1. งีบกลางวัน

    มหาวิทยาลัยชิคาโกศึกษาพบว่า การนอนไม่หลับหรือนอนไม่พอนั้น จะลดระดับฮอร์โมนเลปติน (ทำหน้าที่ส่งสัญญาณความอิ่ม) ร้อยละ 18 และเพิ่มระดับฮอร์โมนเกรลิน (ทำหน้าที่ส่งสัญญาณความหิว) ร้อยละ 30 ทำให้คนที่มีปัญหาการนอนมักอยากกินอาหารจำพวกแป้ง คุ้กกี้ และมันฝรั่งทอดเพิ่มขึ้นร้อยละ 45 การแก้ปัญหาเรื่องนี้ง่ายๆ เพื่อเลิกติดหวานได้ คือ กิจกรรมผ่อนคลาย แอบงีบกลางวัน เพื่อให้ร่างกายพักผ่อนเพียงพอ

กิจกรรมผ่อนคลายต่าง ๆ เหล่านี้ รวมกับโปรแกรมเลิกติดหวานทั้ง 2 โปรแกรมก่อนหน้านี้ โปรแกรมเลิกติดหวาน 1 และ โปรแกรมเลิกติดหวาน 2 จะช่วยให้ทุกคนเลิกติดหวานได้สำเร็จค่ะ 

Back to blog